หมวด   4
การดำเนินงาน
ข้อ 9 การลงลายมือชื่อแทนสหกรณ์   การลงลายมือชื่อเพื่อให้มีผลผูกพันสหกรณ์   เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นพิเศษตามข้อบังคับนี้  ให้ปฏิบัติดังนี้ 
       (1) หนังสือกู้ยืมซึ่งสหกรณ์เป็นผู้กู้ยืม   ตลอดจนการเบิกหรือรับเงินกู้  การจำนองซึ่งสหกรณ์เป็นผู้จำนอง  การถอนเงินฝากของสหกรณ์และในนิติกรรมอื่นๆ  จะต้องลงลายมือชื่อของประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการ  หรือเลขานุการ  หรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายร่วมกับผู้จัดการรวมสองคน
       (2) การรับฝากเงิน  ใบรับเงิน  และเอกสารทั้งปวง  นอกจากที่กล่าวไว้ใน (1)  ข้างบนนี้   จะต้องลงลายมือชื่อของผู้จัดการและ / หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
       อนึ่ง ในหนังสือกู้ยืมซึ่งสหกรณ์เป็นผู้กู้ยืม  ใบสั่งจ่ายเงิน   ใบรับเงิน  ตั๋วสัญญาใช้เงินและตราสารการเงินของสหกรณ์นั้น  ต้องประทับตราของสหกรณ์เป็นสำคัญด้วย     
                                   
วงเงินกู้ยืมหรือการค้ำประกัน
ข้อ 10 วงเงินกู้ยืมหรือการค้ำประกัน ที่ประชุมใหญ่อาจกำหนดวงเงินกู้ยืมหรือการค้ำประกัน  สำหรับปีหนึ่ง ๆ  ไว้ตามที่จำเป็นและสมควรแก่การดำเนินงาน  วงเงินซึ่งกำหนดดังว่านี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์
          ถ้าที่ประชุมใหญ่ยังมิได้กำหนด  หรือนายทะเบียนสหกรณ์ยังมิได้ให้ความเห็นชอบวงเงินกู้ยืมสำหรับปีใด  ก็ให้ใช้วงเงินกู้ยืมสำหรับปีก่อนไปพลาง
 
ข้อ 11  การกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกัน  สหกรณ์อาจกู้ยืมเงิน  หรือออกตั๋วสัญญาใช้เงิน  หรือตราสารการเงิน  หรือโดยวิธีอื่นใดสำหรับใช้เป็นทุนดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ได้  ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร  ทั้งนี้  จะต้องอยู่ภายในวงเงินกู้ยืมหรือการค้ำประกันประจำปีตามข้อ
 
การรับฝากเงิน
ข้อ 12 การรับฝากเงิน สหกรณ์อาจรับฝากเงินประเภทออมทรัพย์  ออมทรัพย์พิเศษ หรือเงินฝากประจำ จากสมาชิกหรือสหกรณ์อื่น หรือสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งมีสมาชิกของสมาคมนั้น  ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้รับฝากเงิน ทั้งนี้ตามระเบียบของสหกรณ์ที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์
 
การให้เงินกู้
ข้อ 13 การให้เงินกู้  สหกรณ์อาจให้เงินกู้แก่
         (1) สมาชิกของสหกรณ์
         (2) สหกรณ์อื่น
         การให้เงินกู้แก่สมาชิกนั้น ให้คณะกรรมการดำเนินการมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยให้เงินกู้ได้โดยผู้กู้จะต้องทำประกันชีวิตตามข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์
         ข้อกำหนดต่าง ๆ  เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาวินิจฉัยให้เงินกู้  หลักประกันสำหรับเงินกู้ลำดับแห่งการให้เงินกู้  เงินงวดชำระหนี้สำหรับเงินกู้  และข้อกำหนดอื่น ๆ  ว่าด้วยการให้เงินกู้แก่สมาชิกนั้นให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์
         การให้เงินกู้แก่สหกรณ์อื่นนั้น   คณะกรรมการดำเนินการ  จะพิจารณาให้กู้ได้ต่อเมื่อสหกรณ์มีทุนเหลือจากการให้กู้แก่สมาชิกแล้ว
สมาชิกหรือสหกรณ์อื่น  ซึ่งประสงค์จะขอกู้เงินจากสหกรณ์นี้  ต้องเสนอคำขอกู้เงินตามแบบและระเบียบของสหกรณ์ที่กำหนดไว้
 
ข้อ 14 ความมุ่งหมายแห่งเงินกู้  เงินกู้ซึ่งให้สมาชิกไม่ว่าประเภทใด  จะให้ได้แต่เฉพาะเพื่อการอัน จำเป็นหรือมีประโยชน์ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร
         ให้คณะกรรมการดำเนินการสอดส่อง      และกวดขันการใช้เงินกู้ของสมาชิกให้ตรงตามความมุ่งหมายที่ให้เงินกู้นั้น
 
ข้อ 15 ประเภทและจำกัดแห่งเงินกู้  สหกรณ์อาจให้กู้แก่สมาชิกได้ตามประเภทและจำกัด  ดังต่อไปนี้
         (1) เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน  ในกรณีที่สมาชิกมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุอันจำเป็นรีบด่วน  และมีความประสงค์ขอกู้เงิน  คณะกรรมการดำเนินการอาจให้เงินกู้เพื่อเหตุนั้นได้ตามระเบียบของสหกรณ์
         (2) เงินกู้สามัญ  ในกรณีที่สมาชิกมีความประสงค์ขอกู้เงินสำหรับใช้จ่ายเงิน  เพื่อการอันจำเป็น  หรือมีประโยชน์ต่างๆ  คณะกรรมการดำเนินการอาจพิจารณา  ให้เงินกู้สามัญแก่สมาชิกนั้นได้ตามระเบียบของสหกรณ์ 
         (3) เงินกู้พิเศษ  เมื่อสหกรณ์มีฐานะทางการเงินก้าวหน้า  พอที่จะช่วยเหลือให้เงินกู้เพื่อส่งเสริมฐานะความมั่นคงหรือเพื่อการเคหะ  หรือก่อประโยชน์งอกเงยแก่สมาชิกได้  โดยจำนวนเกินกว่าจำกัดที่สมาชิกนั้นอาจได้รับเงินกู้สามัญ (ตามที่กล่าวมาใน (2) ข้างบนนี้ ) คณะกรรมการดำเนินการอาจให้เงินกู้พิเศษแก่สมาชิกนั้นได้ตามที่เห็นสมควร โดยผู้ขอกู้ต้องระบุความมุ่งหมายแต่ละอย่างของเงินกู้ประเภทนี้ ตลอดจนเงื่อนไขและวิธีการ  และต้องมีหลักประกันตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์
 
ข้อ 16 ดอกเบี้ยเงินกู้  ให้สหกรณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทที่ให้แก่สมาชิกในอัตราตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์
 
ข้อ 17 การควบคุมหลักประกันและการเรียกคืนเงินกู้  ให้คณะกรรมการดำเนินการตรวจตราควบคุมให้เงินกู้ทุกรายมีหลักประกันตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์ และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการเห็นว่า หลักประกันสำหรับเงินกู้รายใดเกิดบกพร่อง ผู้กู้จะต้องจัดการแก้ไขให้คืนดีภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด
         ในกรณีอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเงินกู้ไม่ว่าประเภทใด ๆ เป็นอันถึงกำหนดส่งคืนโดยสิ้นเชิง พร้อมทั้งดอกเบี้ยในทันที โดยมิพักต้องคำนึงถึงกำหนดเวลาที่ให้ไว้ และให้คณะกรรมการดำเนินการจัดการ  เรียกคืนโดยมิชักช้า
         (1)  เมื่อสมาชิกผู้กู้ออกจากสหกรณ์ไม่ว่าเพราะเหตุใด  ๆ
         (2) เมื่อปรากฏต่อคณะกรรมการดำเนินการว่าผู้กู้นำเงินกู้ไปใช้ผิดความมุ่งหมายที่ให้ เงินกู้นั้น
         (3) เมื่อคณะกรรมการดำเนินการเห็นว่าหลักประกันสำหรับเงินกู้รายใดเกิดบกพร่องและผู้กู้มิได้จัดการแก้ไขให้คืนดีภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด
         (4) เมื่อค้างส่งเงินงวดชำระหนี้ ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลาถึงสองเดือนหรือผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ดังว่านั้นถึงสามคราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่ง ๆ
ในกรณีที่ผู้ค้ำประกัน ต้องรับผิดชำระหนี้แทนผู้กู้ตามที่กล่าวในวรรคก่อนและไม่สามารถชำระหนี้นั้นโดยสิ้นเชิงได้ เมื่อผู้ค้ำประกันร้องขอ คณะกรรมการดำเนินการอาจผ่อนผันให้ผู้ค้ำประกันชำระเป็นงวดรายเดือนจนครบจำนวนตามที่ผู้กู้ได้ทำหนังสือกู้ให้ไว้ต่อสหกรณ์ก็ได้
 
ข้อ 18 ความผูกพันของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน  ผู้กู้หรือผู้ค้ำประกันต้องรับผูกพันว่า ถ้าตนประสงค์จะ  ขอโอนหรือย้าย หรือลาออกจากราชการ  หรืองานประจำตามข้อ 31 (3) จะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สหกรณ์ทราบ  และจัดการชำระหนี้สินซึ่งตนมีอยู่ต่อสหกรณ์ให้เสร็จสิ้น เสียก่อน (เว้นแต่กรณีที่ยังคงเป็นสมาชิกอยู่ตามข้อ  43)
 
การฝากหรือลงทุนเงินของสหกรณ์
ข้อ 19 การฝากหรือการลงทุนเงินของสหกรณ์ เงินของสหกรณ์นั้นสหกรณ์อาจฝากหรือลงทุนได้ตามที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์  ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสหกรณ์  โดยให้คำนึงถึงความมั่นคงและประโยชน์สูงสุดที่สหกรณ์หรือสมาชิกจะได้รับ
 
การเงินและการบัญชีของสหกรณ์
ข้อ 20 การบัญชีของสหกรณ์  ให้สหกรณ์จัดทำบัญชีตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปวันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์ให้สิ้นสุด  ณ  วันที่ 30 พฤศจิกายน  ของทุกปี
          เมื่อสิ้นสุดทางบัญชีทุกปีให้สหกรณ์จัดทำงบดุล รวมทั้งบัญชี กำไรขาดทุน ตามแบบที่นายทะเบียนสหกรณ์  กำหนด
 
ข้อ 21 การเสนองบดุลต่อที่ประชุมใหญ่  ให้คณะกรรมการดำเนินการเสนองบดุล  ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและรับรองแล้วต่อที่ประชุมใหญ่ เพื่อพิจารณาอนุมัติภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี 
          การเสนองบดุลให้คณะกรรมการดำเนินการเสนอรายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของ สหกรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ด้วย
          ให้สหกรณ์ส่งสำเนางบดุลที่เสนอต่อที่ประชุมใหญ่นั้นไปยังสมาชิกทุกคน  และให้เปิดเผย  ณ  สำนักงานของสหกรณ์ก่อนวันประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
          ให้สหกรณ์ส่งสำเนารายงานประจำปี    แสดงผลการดำเนินงานของสหกรณ์กับงบดุลไปยัง    นายทะเบียนสหกรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่
          อนึ่ง  ให้เก็บรักษารายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของสหกรณ์กับงบดุลไว้ที่สำนักงานสหกรณ์เพื่อให้สมาชิกขอตรวจดูได้
กำไรสุทธิประจำปี
ข้อ  22   การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี  เมื่อสิ้นปีทางบัญชีและได้ปิดบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีที่  รับรองทั่วไป  แล้วปรากฏว่าสหกรณ์มีกำไรสุทธิ   ให้จัดสรรเป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของกำไรสุทธิและเป็นค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยตามอัตราที่กำหนดใน กฎกระทรวง แต่ต้องไม่เกินร้อยละห้าของกำไรสุทธิ
             กำไรสุทธิประจำปีที่เหลือจากการจัดสรรตามความ   ในวรรคก่อนนั้น ที่ประชุมใหญ่อาจจะ จัดสรรได้ ดังต่อไปนี้
            (1) เป็นเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้วแต่ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยคิดให้ตามส่วนแห่งระยะเวลา  อนึ่ง ถ้าสหกรณ์ถอนทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผลตาม (4)  ออกจ่ายเป็นเงินปันผลสำหรับปีใดด้วยจำนวนเงินปันผลทั้งสิ้นที่จ่ายสำหรับปีนั้นก็ต้องไม่เกินอัตราดังกล่าวมาแล้ว
            ในการคำนวณเงินปันผลตามหุ้นให้ถือว่าสมาชิกได้ชำระต่อสหกรณ์ ในวันใดให้มีระยะเวลา  สำหรับคำนวณเงินปันผลตั้งแต่ในวันนั้นเป็นต้นไป
            (2) เป็นเงินเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกตามส่วนจำนวนรวมแห่งดอกเบี้ยเงินกู้  ซึ่งสมาชิกนั้น ๆได้ส่งแก่สหกรณ์ในระหว่างปี แต่สมาชิกที่ผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยในปีใดมิให้ได้รับเงินเฉลี่ยคืนสำหรับปีนั้น
            (3) เป็นเงินโบนัสแก่กรรมการและเจ้าหน้าที่และลูกจ้างสหกรณ์ไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิ
            (4) เป็นทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผลไม่เกินร้อยละสองแห่งทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ตามที่มีอยู่ในวันสิ้นปีนั้น จนกว่าจะมีจำนวนถึงร้อยละแปด  แห่งทุนเรือนหุ้นดังกล่าว ทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผลนี้จะถอนได้โดยมติแห่งที่ประชุมใหญ่เพื่อจ่ายเป็นเงินปันผลตามหุ้น  ตาม (1)
            (5) เป็นทุนสาธารณประโยชน์ไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิทุนสาธารณประโยชน์นี้ให้สหกรณ์สะสมไว้สำหรับใช้จ่ายเพื่อการศึกษาโดยทั่วไป  หรือเพื่อการศึกษาอบรมทางสหกรณ์หรือสาธารณประโยชน์หรือการกุศลตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์
            (6) เป็นทุนเพื่อจัดตั้งสำนักงานหรือกองทุนต่างๆเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่สหกรณ์
            (7) กำไรสุทธิส่วนที่เหลืออยู่(ถ้ามี) ให้สมทบเป็นทุนสำรองทั้งสิ้น 
 
ทุนสำรอง
ข้อ 23 ที่มาแห่งทุนสำรอง  นอกจากการจัดสรรกำไรสุทธิตามข้อ 22  แล้ว   บรรดาเงินอุดหนุนหรือทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้แก่สหกรณ์ ถ้าผู้ยกให้มิได้ระบุว่าให้ใช้เพื่อการใดโดยเฉพาะก็ให้สมทบเป็นทุนสำรองทั้งสิ้น 
          อนึ่ง จำนวนเงินซึ่งสหกรณ์พึงจ่ายแก่บุคคลใดก็ตาม ถ้าไม่มีการเรียกร้องจนพ้นกำหนดอายุความก็ให้สมทบจำนวนเงินนั้นเป็นทุนสำรอง
          กำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการเสนอแนะให้ที่ประชุมใหญ่จัดสรรตามข้อ 22 หากที่ประชุมใหญ่พิจารณาแล้วเห็นว่ารายการใดไม่สมควรจัดสรรหรือตัดจำนวนให้น้อยลงก็ดี ยอดเงินจำนวนดังกล่าวให้สมทบเป็นทุนสำรองทั้งสิ้น
 
ข้อ 24 ทุนสำรอง  จะถอนจากบัญชีทุนสำรองได้  เพื่อชดเชยการขาดทุนหรือเพื่อจัดสรรเข้าบัญชี ทุนสำรองให้แก่สหกรณ์ใหม่ที่ได้จดทะเบียนแบ่งแยกจากสหกรณ์เดิม  ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์กำหนด
 
ทะเบียน  บัญชี  และเอกสารอื่น ๆ
ข้อ 25 ทะเบียนและบัญชี  ให้สหกรณ์มีทะเบียนสมาชิก  ทะเบียนหุ้น  และทะเบียนอื่น ๆตลอดจนสมุดรายงานการประชุม  และบัญชีตามแบบที่นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด  และตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควรให้มีขึ้น
         เมื่อมีเหตุต้องบันทึกรายการบัญชีเกี่ยวกับกระแสเงินสดของสหกรณ์ให้บันทึกรายการในวันที่เกิดเหตุนั้น สำหรับเหตุอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับกระแสเงินสดให้บันทึกรายการในสมุดบัญชีภายในสามวัน นับแต่วันที่มี เหตุอันจะต้องบันทึกรายการนั้น
         การลงรายการบัญชีต้องมีเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สมบูรณ์โดยครบถ้วน
         เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการในทะเบียนสมาชิกหรือทะเบียนหุ้นให้สหกรณ์แจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อนายทะเบียนสหกรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์
         สมาชิกอาจขอตรวจดูเอกสารในวรรคก่อนได้  ณ  สำนักงานของสหกรณ์ในระหว่างเวลาทำงาน แต่จะดูบัญชีหรือทะเบียนเกี่ยวกับเงินค่าหุ้น  เงินฝาก  หรือเงินกู้  ของสมาชิกรายอื่นไม่ได้นอกจากจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือของสมาชิกนั้น และได้รับอนุญาตจากผู้จัดการก่อน
 
ข้อ 26 กฎหมายและข้อบังคับ ให้สหกรณ์จัดให้มีพระราชบัญญัติสหกรณ์และกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสหกรณ์ซึ่งคงใช้อยู่  กับข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์นี้ไว้ ณ สำนักงานของสหกรณ์ สมาชิกและผู้สนใจอาจขอตรวจดูได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
การตรวจสอบบัญชีและการตรวจตราควบคุม
ข้อ 27 การตรวจสอบบัญชี บัญชีของสหกรณ์นั้นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างน้อยปีละครั้งโดยผู้สอบบัญชีซึ่งนายทะเบียนสหกรณ์แต่งตั้ง
 
ข้อ 28 การตรวจตราควบคุม นายทะเบียนสหกรณ์  รองนายทะเบียนสหกรณ์ ผู้ตรวจการสหกรณ์ หรือผู้สอบบัญชีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งนายทะเบียนสหกรณ์มอบหมาย มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ คณะกรรมการดำเนินการ คณะกรรมการอื่น ๆ ผู้ตรวจสอบกิจการ  ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกของสหกรณ์มาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์  หรือให้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินงาน หรือรายงานการประชุมได้ ทั้งอาจเรียกและเข้าร่วมประชุมใหญ่ หรือประชุมคณะกรรมการดำเนินการ หรือประชุมคณะกรรมการอื่น ๆ ตลอดจน ตรวจสอบสรรพสมุดบัญชีทะเบียน เอกสาร และใบสำคัญต่าง ๆ ของสหกรณ์ได้
              ทั้งนี้ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องตามความในวรรคแรก  อำนวยความสะดวกและชี้แจงข้อความในเรื่องเกี่ยวกับ กิจการของสหกรณ์ให้ทราบตามความประสงค์
 
ข้อ 29 การส่งรายการหรือรายงาน ให้สหกรณ์ส่งรายการหรือรายงานเกี่ยวกับกิจการของสหกรณ์ต่อหน่วยงานที่กำกับดูแล ตามแบบและระยะเวลาที่หน่วยงานนั้นกำหนด

ตรวจสอบข้อมูลสมาชิก

ปันผล/เฉลี่ยคืน

รายการ ปี 2566 ร้อยละ
ปันผล 6
เฉลี่ยคืน 14
เนื้อหาที่เปิดอ่าน
1393479
JSN Epic template designed by JoomlaShine.com